ตาม แผ่นข้อมูล WHO เรื่อง “Infertility” พบว่าประมาณหนึ่งในหกคนทั่วโลกประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก ในประเทศไทยประมาณร้อยละ 10–14 ของคู่สมรสมีปัญหาเช่นกัน การรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์สามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้มาก แต่มีค่าใช้จ่ายสูง บทความนี้สรุปค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ. 2568, สวัสดิการที่อาจได้รับ และวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายให้คุณ
ค่าใช้จ่ายฉีดเชื้อในบ้าน, IUI, IVF & ICSI – ภาพรวมปี พ.ศ. 2568
- ฉีดเชื้อด้วยตนเองที่บ้าน (Home Insemination)
฿10,000–฿20,000 ต่อครั้ง · ต้นทุนต่ำสุด รักษาความเป็นส่วนตัวสูงสุด - IUI – ฉีดเชื้อในโพรงมดลูก
฿14,000–฿44,000 ต่อรอบ · อัตราความสำเร็จ 10–15 % - IVF – เด็กหลอดแก้ว
฿128,000–฿180,000 ต่อรอบ · อัตราความสำเร็จ 25–35 % (ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 35 ปี) - ICSI – ฉีดเชื้อแบบไมโครอินเจคชั่น
เพิ่มอีก ฿180,000–฿232,000 บนพื้นฐาน IVF · เหมาะกับภาวะมีบุตรยากจากฝ่ายชายรุนแรง
วิธีอื่นๆ & ค่าบริการเสริม
GIFT: ฿200,000–฿280,000 · IVM: ฿80,000–฿160,000 · การตรวจติดตามแบบ Time-Lapse: +฿16,000–฿24,000
สวัสดิการด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากในประเทศไทย
โดยทั่วไป โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) และประกันสังคมไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทางเลือกคือประกันสุขภาพเอกชน ซึ่งบางแผนอาจให้ความคุ้มครองบางส่วน ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการรักษา
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทั่วไป
- การปรึกษาครั้งแรกและตรวจวินิจฉัย: ฿4,800–฿10,000
- ตรวจฮอร์โมนและอัลตราซาวด์: ฿12,000–฿24,000
- เก็บรักษาแช่แข็งตัวอ่อน (ปีแรก): ประมาณ ฿30,000; ปีถัดไป ฿12,000–฿20,000
- สเปิร์มผู้บริจาค (เอกชน): ฿22,000–฿40,000 ต่อขวด
เทคโนโลยีใหม่ & ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม – คุ้มค่าหรือไม่?
ตาม แนวทาง WHO เรื่องเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ แนะนำให้พิจารณาต้นทุนและประโยชน์อย่างรอบคอบสำหรับบริการเสริมต่อไปนี้:
- AI เลือกตัวอ่อน (+฿12,000–฿20,000): ซอฟต์แวร์ช่วยคัดเลือกตัวอ่อนที่มีโอกาสฝังตัวสูง
- ตู้อบตัวอ่อนแบบ Time-Lapse (+฿16,000–฿24,000): ตรวจติดตามวิดีโอตัวอ่อนตลอดเวลา เพิ่มอัตราความสำเร็จเล็กน้อย
- PGT-A (คัดกรองโครโมโซม) (฿60,000–฿100,000): ลดความเสี่ยงแท้ง แนะนำสำหรับอายุ 35 ปีขึ้นไป
- แยกสเปิร์มด้วยไมโครชิพ (+฿10,000): คัดสเปิร์มที่เคลื่อนไหวได้ดีที่สุด
ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการบริจาคสเปิร์มส่วนบุคคล
การบริจาคสเปิร์มแบบส่วนบุคคลช่วยลดค่าธรรมเนียมธนาคารและค่าแยกโรค (quarantine) ใช้แอป RattleStork เพื่อค้นหาผู้บริจาคที่ผ่านการตรวจสอบในราคาเริ่มต้น ฿12,000 ต่อขวด — ถูกกว่าธนาคารสเปิร์มทั่วไปประมาณ 50%

ห้าข้อแนะนำประหยัดค่าใช้จ่าย
- ใช้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์
- เปรียบเทียบแพ็กเกจหลายรอบ IVF จากคลินิกหลายแห่งเพื่อรับส่วนลด
- สอบถามทุนช่วยเหลือจากองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น RESOLVE grants
- เลือกใช้ยาย่อมจ่าย (generic) เมื่อเหมาะสม
- เก็บใบเสร็จทุกใบเพื่อใช้ขอคืนภาษีหรือเบิกค่ารักษาพยาบาล
บทสรุป – จัดการงบประมาณควบคู่กับความหวัง
การรักษาภาวะมีบุตรยากต้องใช้งบประมาณมาก แต่หากคุณเข้าใจค่าใช้จ่ายต่างๆ สวัสดิการ และใช้กลยุทธ์ประหยัด คุณจะสามารถเดินหน้าสู่ฝันการเป็นพ่อแม่ในปี พ.ศ. 2568 ได้โดยไม่ทิ้งงบประมาณไว้ข้างหลัง