หลังปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะเคลื่อนสู่มดลูกและฝังตัวลงในเยื่อบุโพรงมดลูก กระบวนการฝังตัวคือรากฐานของการตั้งครรภ์ที่ปกติ บทความนี้อธิบายกลไกการเกิด ช่วงเวลาที่พบได้บ่อย สัญญาณที่เป็นจริง วิธีแยกเลือดฝังตัวออกจากประจำเดือน และเวลาที่การทดสอบการตั้งครรภ์ให้ผลน่าเชื่อถือจริง
การฝังตัวคืออะไร?
การฝังตัว (implantation) คือการที่บลาสโตซิสต์ฝังตัวลงในเยื่อบุโพรงมดลูก ชั้นเซลล์ด้านนอก (โทรโฟบลาสต์) เชื่อมตัวอ่อนเข้ากับเลือดของมารดาและเริ่มการสร้างรก โดยพบได้บ่อยราว 6–10 วันหลังปฏิสนธิ ระดับฮอร์โมน hCG จะเริ่มสูงขึ้นหลังการฝังตัวสำเร็จ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ชุดตรวจปัสสาวะและเลือดตรวจพบ (NHS: Pregnancy test)
การฝังตัวเกิดขึ้นเมื่อใด?
ฮอร์โมน LH จะพุ่งก่อนตกไข่ประมาณ 24–48 ชั่วโมง หลังปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะแบ่งตัวจนเป็นบลาสโตซิสต์ในวันที่ 4–5 และมักฝังตัวระหว่างวันที่ 6–10 ทั้งนี้แตกต่างกันไปในแต่ละคน หากตกไข่ช้าจะเลื่อนไทม์ไลน์ทั้งหมดออกไปด้วย
- วัน 0: ปฏิสนธิ
- วัน 1–3: แบ่งตัวและเคลื่อนที่
- วัน 4–5: เป็นบลาสโตซิสต์
- วัน 6–10: ฝังตัว
เชิงปฏิบัติ: ผลลบก่อนกำหนดมักไม่น่าเชื่อถือ ควรตรวจในวันคาดว่าจะมีประจำเดือนเพื่อเพิ่มความแม่นยำ (NHS)
ใช้เวลานานเท่าใด?
ช่วง “ยึดสมอ” กับเยื่อบุใช้เวลาราว 1–2 วัน โดยรวมตั้งแต่ปฏิสนธิถึงฝังตัวเสร็จสิ้นมักใช้ 6–12 วัน ระดับ hCG จะเพิ่มหลังฝังตัว จึงทำให้การตรวจปัสสาวะเร็วเกินไปมักให้ผลลบลวง (NHS)
อาการที่พบบ่อย
หลายคนไม่รู้สึกผิดปกติ หากมีอาการ มักอ่อนและไม่จำเพาะ ได้แก่
- ปวดหน่วง/จุกเสียดเล็กน้อยชั่วครู่ที่ท้องน้อย
- มีเลือดกะปริบกะปรอย (spotting) ใกล้วันที่คาดว่าจะมีประจำเดือน
- อ่อนเพลียเร็ว หรือคัดตึง/ไวต่อการสัมผัสของเต้านม
สำคัญ: อาการเหล่านี้เกิดได้แม้ในรอบที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ สิ่งที่น่าเชื่อถือกว่าคือจับจังหวะการตรวจให้ถูกต้องและติดตามรอบเดือนอย่างสม่ำเสมอ (เช่น ชุดตรวจตกไข่) ตามคำแนะนำแนวทางเวชปฏิบัติ (NICE CG156)
เลือดฝังตัว vs ประจำเดือน
ใช้ความแตกต่างด้านล่างเป็นแนวทาง หากไม่แน่ใจควรพบแพทย์เพื่อประเมิน
| ลักษณะ | เลือดฝังตัว | ประจำเดือน |
|---|---|---|
| ช่วงเวลา | ประมาณ 6–10 วันหลังตกไข่ | มัก ~14 วันหลังตกไข่ |
| ระยะเวลา | ไม่กี่ชั่วโมงถึง 1–2 วัน | 3–7 วัน |
| ปริมาณ | น้อยมาก ลักษณะ “กะปริบกะปรอย” | ตั้งแต่น้อยจนถึงมาก |
| สี | ชมพูจนถึงน้ำตาล | แดงสดพบได้บ่อย |
การมีเลือดกะปริบกะปรอยเล็กน้อยช่วงตั้งครรภ์ระยะแรกอาจเป็นภาวะปกติ แต่ถ้ามากหรือยาวนานควรประเมินโดยแพทย์โดยเร็ว (NHS: Vaginal bleeding)
วิธีสนับสนุนการฝังตัว
- ติดตามรอบเดือน: ระบุช่วงเจริญพันธุ์ด้วยชุดตรวจตกไข่และอุณหภูมิฐานร่างกาย และวางแผนมีเพศสัมพันธ์รอบวันตกไข่เพื่อเพิ่มโอกาส (NICE CG156)
- วิถีชีวิต: งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ โภชนาการสมดุล ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนเพียงพอ — หลักการพื้นฐานที่แนวทางเน้นย้ำ (NICE)
- อาหารเสริม: กรดโฟลิกตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์และช่วงต้นการตั้งครรภ์ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- จังหวะการตรวจ: ตรวจปัสสาวะในวันคาดว่าจะมีประจำเดือน; หากข้อมูลยังไม่ชัด การตรวจเลือดวัด hCG แบบต่อเนื่องอาจช่วยได้ (NHS)

อุปสรรค & ปัจจัยเสี่ยง
เยื่อบุโพรงมดลูกบาง/อักเสบ เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกหรือโพลิป พังผืดในโพรงมดลูก (Asherman’s syndrome) ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด รวมถึงการสูบบุหรี่จัดหรือโรคอ้วน อาจขัดขวางการฝังตัวได้ การประเมินควรทำรายบุคคลในคลินิกมีบุตรยากตามคำแนะนำที่เชื่อถือได้ (คำแนะนำ NICE)
การวินิจฉัยเชิงปฏิบัติ
- อัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดเพื่อประเมินเยื่อบุและตัดสาเหตุเชิงโครงสร้าง
- การตรวจเลือดวัด hCG แบบต่อเนื่องเพื่อติดตามการตั้งครรภ์ระยะแรก
- เมื่อมีข้อบ่งชี้: ตรวจการติดเชื้อหรือเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบเรื้อรัง
ควรระวัง “การเสริม” (add-ons) บางวิธีในเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เนื่องจากหลักฐานจำกัด หลักฐานสรุปอิสระมีให้โดยหน่วยงานกำกับของสหราชอาณาจักร HFEA (HFEA add-ons)
การฝังตัวล้มเหลวซ้ำ (RIF): คำจำกัดความ & แนวทาง
หากแม้ย้ายตัวอ่อนคุณภาพดีหลายครั้งยังไม่เกิดการตั้งครรภ์ทางคลินิก มักเรียกว่า RIF สาเหตุอาจเกี่ยวกับมดลูก ตัวอ่อน/พันธุกรรม ฮอร์โมน หรือระบบโดยรวม หลักฐานของการทดสอบ/รักษาด้านภูมิคุ้มกันหลายวิธียังหลากหลาย HFEA จึงประเมิน add-ons กลุ่มนี้อย่างระมัดระวัง (HFEA: Immunological tests & treatments)
แนวทางที่แนะนำคือ ตรวจประเมินอย่างเป็นระบบ ปรับจังหวะการรักษาให้เหมาะสม และรักษาตามแนวทางมาตรฐาน ก่อนพิจารณาทางเลือกเชิงทดลองโดยชั่งน้ำหนักประโยชน์–ความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
หลักฐานล่าสุด
การฝังตัวเกิดจากปฏิสัมพันธ์ของคุณภาพตัวอ่อน ความพร้อมรับของเยื่อบุโพรงมดลูก และจังหวะที่แม่นยำ แนวทางเน้นบทบาทของวิถีชีวิต ช่วงเวลาการตรวจที่ถูกต้อง และการวินิจฉัยอย่างมีเหตุผล ขณะที่หน่วยงานกำกับแนะนำให้ประเมิน add-ons ใหม่ๆ อย่างวิพากษ์ (NICE CG156, สรุป HFEA)
เมื่อใดควรพบแพทย์
ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีเลือดออกมากหรือยาวนาน ปวดท้องน้อยรุนแรง เวียนศีรษะ/เป็นลม ไข้ หรือมีเลือดออกร่วมกับผลตรวจตั้งครรภ์เป็นบวก เลือดกะปริบกะปรอยเล็กน้อยอาจพบได้ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ แต่การประเมินที่ให้ความมั่นใจทำได้ที่คลินิกตั้งครรภ์ระยะแรก (NHS: Vaginal bleeding)
สรุป
การฝังตัวคือจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ มักเกิด 6–10 วันหลังตกไข่ และสัญญาณมักเล็กน้อย ผลตรวจที่เชื่อถือได้ที่สุดได้จากการตรวจในวันคาดว่าจะมีประจำเดือน การติดตามรอบอย่างสม่ำเสมอ วิถีชีวิตที่ดี และการพบแพทย์เร็วเมื่อมีสัญญาณอันตราย จะช่วยสร้างเงื่อนไขที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งพา add-ons ที่ยังมีหลักฐานจำกัด

