การตกไข่ 2025: ระบุวันไข่ตกอย่างแม่นยำ – ช่วงชีวิตของไข่ อาการ และวิธีที่ได้ผล

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
ซัปเปิลฟิลิป มาร์กซ์
ภาพปก: ไข่ที่พร้อมตกจากรังไข่

โอกาสตั้งครรภ์กระจุกอยู่เพียงไม่กี่วันในหนึ่งรอบเดือน บทความนี้อธิบายสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการตกไข่ ไข่อยู่ได้กี่ชั่วโมง วิธีหา “ช่วงที่เจริญพันธุ์” ของคุณ และวิธีไหนช่วยได้จริงในชีวิตประจำวัน — ชัดเจน อิงหลักฐาน และไม่เพิ่มความเครียด

ทำความเข้าใจระยะของรอบเดือนและฮอร์โมน

  • ระยะมีประจำเดือน (วันที่ 1–5): เยื่อบุมดลูกหลุดลอก ระดับเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนต่ำ
  • ระยะฟอลลิคูลาร์ (วันที่ 1 ถึงวันตกไข่): FSH กระตุ้นฟอลลิคูลให้สุก เอสโตรเจนที่สูงขึ้นสร้างเยื่อบุมดลูกใหม่
  • การตกไข่ (มักเกิดวันที่ 12–16): ไข่สุกถูกปล่อยและสามารถปฏิสนธิได้ราว 12–24 ชั่วโมง
  • ระยะลูเทียล (ประมาณ 14 วัน): โปรเจสเตอโรนจากคอร์ปัสลูเทียมพยุงเยื่อบุมดลูก หากไม่ปฏิสนธิ ฮอร์โมนลดลงและเริ่มรอบใหม่
อินโฟกราฟิก: เส้นโค้ง FSH, LH, เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนตลอด 4 ระยะของรอบเดือนจนถึงวันตกไข่
ภาพรวมรอบเดือน: ฮอร์โมนและระยะต่าง ๆ จนถึงการตกไข่

การตกไข่คืออะไร

การตกไข่คือการที่ไข่สุกถูกปล่อยจากรังไข่และพร้อมปฏิสนธิในท่อนำไข่ โดยเฉลี่ยเกิดก่อนมีประจำเดือนครั้งถัดไป 10–16 วัน — ไม่จำเป็นต้องตรงวันเดิมในทุกคน ข้อมูลผู้ป่วยอ่านง่ายจาก NHS

ตัวเลข & หลักฐาน

  • ไข่: ปฏิสนธิได้ประมาณ 12–24 ชั่วโมงหลังตกไข่ (NHS)
  • อสุจิ: อยู่ในระบบสืบพันธุ์สตรีได้ 5–7 วัน จึงทำให้ช่วงเจริญพันธุ์เริ่มก่อนวันตกไข่ (NHS)
  • ช่วงเจริญพันธุ์: รวมราว 6 วัน โอกาสสูงสุดคือ 2 วันก่อนตกไข่และวันตกไข่เอง (ข้อมูลคลาสสิก: NEJM Wilcox)
  • ข้อแนะนำเชิงปฏิบัติ: มีเพศสัมพันธ์ทุก 2–3 วันครอบคลุมช่วงนี้ได้ดีโดยไม่ต้องกำหนดวันเป๊ะ (NICE CG156)

คำนวณวันไข่ตกและวันเจริญพันธุ์

หากรอบเดือนสม่ำเสมอ วันตกไข่มักอยู่ก่อนประจำเดือนครั้งถัดไป 10–16 วัน แต่ควรตรวจสอบด้วยการสังเกตร่างกายหรือชุดตรวจ เพราะความแปรปรวนพบได้ปกติ

  • กฎ Knaus–Ogino (เป็นเพียงแนวทาง): วันเจริญพันธุ์วันแรก = รอบสั้นสุด − 18; วันสุดท้าย = รอบยาวสุด − 11 ใช้ประกอบเท่านั้น ไม่ควรพึ่งวิธีเดียว
  • ความจริงหน้างาน: แม้รอบ 28 วัน ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ตกไข่วันที่ 14 ควรคิดเป็น “ช่วงเวลา” ไม่ใช่ “วันตายตัว” (Wilcox)

เปรียบเทียบวิธี: หา “หน้าต่างเจริญพันธุ์” ของคุณ

ชุดวิธีที่เรียบง่ายแต่น่าเชื่อถือ: แอปปฏิทินเป็นกรอบ สังเกตมูกปากมดลูกเพื่อคาดการณ์ ยืนยันด้วยอุณหภูมิฐาน (BBT) และเติมชุดตรวจ LH เมื่อจำเป็น ทำให้ติดตามได้ทั้งแม่นและทำได้จริง

  • มูกปากมดลูก: ใส ยืดเป็นเส้น ชี้ภาวะเจริญพันธุ์สูง วิธีธรรมชาติและประหยัด แต่ต้องอาศัยการฝึกตีความ (NICE)
  • อุณหภูมิฐาน (BBT): วัดทันทีหลังตื่น อุณหภูมิที่สูงขึ้นช่วย “ยืนยันย้อนหลัง” ว่าตกไข่แล้ว — เหมาะยืนยัน ไม่ได้เดาล่วงหน้า (NICE)
  • ชุดตรวจตกไข่ (OPK): ตรวจพบการพุ่งของ LH ก่อนตกไข่ ให้เวลาล่วงหน้า 12–36 ชม. สำหรับการวางแผน (ข้อมูลพื้นฐาน: NHS)
  • ปฏิทิน/แอป: มีประโยชน์ต่อแพตเทิร์นและการเตือน แต่เมื่อรอบแปรปรวนจะเป็นเพียงการคาดคะเน

ชุดตรวจการตกไข่: ใช้ให้ถูก แบบย่อ

  1. เริ่มตรวจ 4–5 วันก่อนวันที่คาดว่าอาจตกไข่เร็วสุด
  2. ใช้ปัสสาวะช่วงเช้า “ครั้งที่สอง” (เข้มข้นกว่า ไม่ใช่ที่กักไว้ทั้งคืน)
  3. ตรวจเวลาเดิมทุกวัน และทำตามคู่มือผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด
  4. ถ้าขึ้นบวก: วางแผนมีเพศสัมพันธ์วันนั้นและวันถัดไป

หากผลไม่ชัดเจนซ้ำ ๆ การตรวจเลือดดูโปรเจสเตอโรนช่วยยืนยันว่ามีการตกไข่เกิดขึ้นแล้วได้ (NICE)

อาการบ่งชี้ทั่วไป

  • มูกปากมดลูกใส ยืดเป็นเส้น
  • ปวดหน่วงท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งเล็กน้อย (ปวดกึ่งรอบเดือน; ไม่ได้เกิดในทุกคน)
  • อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยในวันถัดมา (BBT)

หลายคนไม่มีสัญญาณชัดเจน จึงควรพึ่ง “การสังเกตร่วมกับการตรวจ” มากกว่าความรู้สึก

เคล็ดลับปฏิบัติ

  • จังหวะสบาย ๆ: มีเพศสัมพันธ์ทุก 2–3 วันครอบคลุมช่วงเจริญพันธุ์ได้ดี (NICE)
  • วางรูทีน: ประเมินมูกเวลาเดิมทุกวัน; วัด BBT ทันทีหลังตื่น
  • วิถีชีวิต: งดบุหรี่ เลี่ยงแอลกอฮอล์ นอนพอ อาหารสมดุล — ข้อแนะนำที่มีหลักฐานสนับสนุนดี (NICE)

ตารางเปรียบเทียบ: วิธีไหน เหมาะกับอะไร

วิธีการใช้งานจุดเด่นข้อจำกัด
มูกปากมดลูกคาดการณ์ช่วงเจริญพันธุ์ธรรมชาติ แบบเรียลไทม์ต้องอาศัยทักษะการตีความ
อุณหภูมิฐานยืนยันหลังตกไข่ประหยัด วัดได้เป็นวัตถุวิสัยไม่ทำนายล่วงหน้า ต้องวัดทุกวัน
ชุดตรวจตกไข่ (OPK)วางแผนระยะสั้น (12–36 ชม.)ช่วงลงมือที่ชัดเจนมีค่าใช้จ่าย และต้องจับจังหวะตรวจให้ถูก
ปฏิทิน/แอปกรอบและบันทึกความคืบหน้าภาพรวมเป็นระบบในรอบที่แปรปรวนเป็นเพียงการประมาณ

ความเชื่อผิด & ข้อเท็จจริงเรื่องการตกไข่

  • “ตกไข่เสมอในวันที่ 14” — มีความแปรปรวนสูง แม้ในรอบ 28 วัน (NEJM Wilcox)
  • “ไม่มีอาการปวด แปลว่าไม่ตกไข่” — หลายคนตกไข่ปกติโดยไม่มีอาการชัดเจน (NHS)
  • “อุณหภูมิฐานทำนายวันตกไข่ได้” — ใช้ยืนยันย้อนหลัง เหมาะยืนยันมากกว่าทำนาย (ดู NICE)
  • “ต้องมีเพศสัมพันธ์ทุกวันจึงเพิ่มโอกาสมาก” — ทุก 2–3 วันก็เพียงพอและเครียดน้อยกว่า (NICE)
  • “แอปบอกวันเป๊ะ” — เป็นเพียงการคาดคะเน ผสานกับสัญญาณร่างกายหรือ OPK น่าเชื่อถือกว่า
  • “ผลลบ = ไม่มีการตกไข่” — อาจพลาดช่วงตรวจ เลือดดูโปรเจสเตอโรนช่วยยืนยันได้ (NICE)
  • “มีโอกาสเฉพาะวันตกไข่” — อสุจิอยู่ได้ถึง 7 วัน ความอุดมสมบูรณ์เริ่มก่อนวันนั้น (NHS)
  • “รอบไม่สม่ำเสมอ = มีบุตรยาก” — ความแปรปรวนพบได้บ่อย สำคัญที่มีการตกไข่หรือไม่ ควรพบแพทย์หากกังวล

รอบเดือนไม่สม่ำเสมอ: ควรไปพบแพทย์เมื่อไร

หากรอบแกว่งมาก ประจำเดือนขาด หรือแม้ติดตามแล้วยังไม่ชัดว่าตกไข่ ควรเข้ารับการประเมิน สาเหตุพบบ่อยได้แก่ ความผิดปกติของไทรอยด์ PCOS น้ำหนักสุดโต่ง หรือความเครียด การตรวจเลือดโปรเจสเตอโรนช่วยยืนยันการตกไข่ได้ (NICE CG156) สำหรับภาพรวม ดู แผ่นข้อมูลภาวะมีบุตรยากของ WHO

สรุป

ไข่ปฏิสนธิได้เพียง 12–24 ชั่วโมง แต่อสุจิอยู่ได้ 5–7 วัน ช่วงสำคัญคือ 2–3 วันก่อนตกไข่และวันตกไข่เอง แนวทางที่เชื่อถือได้คือ ใช้แอปติดตามรอบ + สังเกตมูกปากมดลูก + ยืนยันด้วย BBT และเพิ่มชุดตรวจ LH เมื่อจำเป็น หากยังไม่ตั้งครรภ์หรือรอบไม่สม่ำเสมอ ควรเข้ารับการประเมินตามแนวทางเวชปฏิบัติแต่เนิ่น ๆ

ข้อจำกัดความรับผิด: เนื้อหาใน RattleStork มีไว้เพื่อข้อมูลและการศึกษาโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ กฎหมาย หรือวิชาชีพ และไม่รับประกันผลลัพธ์ใด ๆ การใช้ข้อมูลนี้เป็นความเสี่ยงของผู้ใช้เอง ดู ข้อจำกัดความรับผิดฉบับเต็ม.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คุณสามารถจำกัดช่วงวันตกไข่ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นโดยใช้ชุดทดสอบตกไข่ (ทดสอบ LH) ตั้งแต่สามถึงห้าวันก่อนวันที่คาดว่าจะตกไข่ และวัดอุณหภูมิร่างกายพื้นฐานทุกวัน วิธีนี้ช่วยให้คุณตรวจจับทั้งการเพิ่มขึ้นของ LH และการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่ตามมา

สำหรับรอบเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ วิธีที่ดีที่สุดคือใช้ชุดทดสอบตกไข่และสังเกตมูกปากมดลูก บันทึกรอบเดือนหลายรอบเพื่อหาค่าเฉลี่ย จากนั้นเริ่มทดสอบตั้งแต่ห้าวันก่อนวันที่คาดว่าจะตกไข่ที่เร็วที่สุด จนกระทั่งผลทดสอบ LH ออกมาเป็นบวก

สูตร Knaus-Ogino จะคำนวณวันแรกของช่วงที่มีความอุดมสมบูรณ์ว่าเป็น “รอบเดือนที่สั้นที่สุด − 18” และวันสุดท้ายเป็น “รอบเดือนที่ยาวที่สุด − 11” นี่เป็นการประมาณค่าคร่าว ๆ ที่แม่นยำเฉพาะในกรณีที่รอบเดือนค่อนข้างคงที่เท่านั้น และควรเสริมด้วยการทดสอบ LH หรือการสังเกตมูกปากมดลูก

เริ่มใช้ชุดทดสอบตกไข่ห้าวันก่อนวันที่คาดว่าจะตกไข่ที่เร็วที่สุด ตัวอย่างเช่น หากรอบเดือนที่สั้นที่สุดของคุณคือ 28 วัน และการตกไข่เกิดขึ้นประมาณวันที่ 14 ให้เริ่มทดสอบตั้งแต่วันที่ 9 และทดสอบทุกวันจนกว่าจะได้ผลบวก

ชุดทดสอบ LH จะวัดการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนลูทีไนซิ่ง (LH) ในปัสสาวะ ผลบวกหมายถึงระดับ LH พุ่งสูงและคาดว่าไข่จะตกภายใน 24–36 ชั่วโมง

การวัดอุณหภูมิร่างกายพื้นฐานจะยืนยันการตกไข่ย้อนหลัง เพราะอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อผ่านไปครึ่งวันถึงหนึ่งวันหลังจากไข่หลุดออกมา สำหรับการทำนายที่แม่นยำ ควรใช้ควบคู่กับการทดสอบ LH หรือการสังเกตมูกปากมดลูก

เมื่อต้องการสังเกตมูกปากมดลูก ให้สอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอดก่อนเข้าห้องน้ำและดูว่ามูกมีลักษณะเป็นอย่างไร ใกล้วันตกไข่ มูกจะใส ลื่น และยืดหยุ่นมาก คล้ายกับไข่ขาว

เวลาที่ดีที่สุดคือห้าวันก่อนวันตกไข่และในวันตกไข่เอง เชื้ออสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงห้าวัน และไข่จะมีความอุดมสมบูรณ์เพียง 12–24 ชั่วโมง ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลานี้จะเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์มากที่สุด

ได้ การตกไข่ไม่ได้เกิดขึ้นตามวันที่ตายตัวและจะแตกต่างกันในแต่ละคน ในรอบเดือน 28 วัน การตกไข่อาจเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10 ถึง 17 หากรอบเดือนของคุณสั้นกว่า การตกไข่อาจเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น

การพลาดการตกไข่มักจะแสดงโดยไม่มีการเพิ่มขึ้นของ LH และไม่มีการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ หากรอบเดือนไม่มีการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในระยะลูทีนัล หรือมูกปากมดลูกยังคงใสและไม่ยืดหยุ่น แสดงว่าอาจไม่มีการตกไข่ ในกรณีนั้นควรตรวจตรวจฮอร์โมนกับนรีแพทย์

ความเครียดสูงจะเพิ่มระดับคอร์ติซอล ซึ่งอาจทำให้พีค LH อ่อนลงหรือเลื่อนออกไป การทำเทคนิคการผ่อนคลายเป็นประจำ เช่น โยคะ การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจ ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและกระตุ้นการตกไข่ให้ตรงเวลา

อาหารที่สมดุลและมีวิตามินเพียงพอ (โดยเฉพาะวิตามิน D และวิตามินบี) แร่ธาตุ (สังกะสี ซีลีเนียม) และกรดไขมันโอเมกา-3 สนับสนุนสมดุลฮอร์โมน สารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้และผักช่วยปกป้องไข่และส่งเสริมการควบคุมรอบเดือน

ภาวะน้ำหนักเกินอาจทำให้ระดับอินซูลินและเอสโตรเจนสูงขึ้น ซึ่งอาจลดพีค LH และทำให้การตกไข่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่เกิดขึ้น การลดน้ำหนักในระดับปานกลางสามารถช่วยปรับปรุงความสม่ำเสมอของรอบเดือนและคุณภาพของไข่

สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ การตกไข่จะเกิดขึ้นในรอบเดือนแรกหลังจากหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด ประมาณ 80% จะตกไข่ภายในหกสัปดาห์ แต่หากมีภาวะฮอร์โมนผิดปกติ เช่น PCOS อาจใช้เวลานานขึ้น

แอปติดตามรอบเดือนใช้แอลกอริธึมในการสร้างการทำนายตามข้อมูลที่คุณป้อน แอปจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลา ประจำเดือน อาการ และสัญญาณชีพต่าง ๆ เมื่อใช้ร่วมกับการวัดอุณหภูมิร่างกายพื้นฐานและการทดสอบ LH จะช่วยทำนายการตกไข่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตกไข่ก่อนกำหนดอาจแสดงโดยการทดสอบ LH ให้ผลบวกเร็วเกินปกติ การมูกปากมดลูกใสเร็วกว่าปกติ หรือการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในครึ่งหลังของรอบเดือน หากคุณมีรอบเดือนสั้น โปรดสังเกตสัญญาณเหล่านี้ทันทีหลังจากประจำเดือน

วัดอุณหภูมิร่างกายพื้นฐานทุกเช้าเวลาเดียวกันทันทีหลังตื่นนอนและก่อนลุกจากเตียง การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 0.2–0.5 °C ชี้ให้เห็นว่าได้เกิดการตกไข่ไปแล้ว

มี ยาอย่างโคลมิเฟนและเลโทรโซลกระตุ้นการตกไข่โดยมีผลต่อการสร้างฮอร์โมน มักใช้ในผู้หญิงที่มีภาวะตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ปริมาณและระยะเวลาการใช้ยาแพทย์จะเป็นผู้กำหนด

โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) มักทำให้เกิดภาวะตกไข่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่เกิดเลย การลดน้ำหนัก การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการรักษาด้วยยา (เช่น เมโทฟอร์มิน โคลมิเฟน) สามารถช่วยทำให้รอบเดือนเป็นปกติและส่งเสริมการตกไข่ที่สม่ำเสมอ

ควรไปปรึกษาศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากหากคุณอายุต่ำกว่า 35 ปีและพยายามตั้งครรภ์มาเป็นเวลา 1 ปีไม่มีผล หรือหากคุณอายุมากกว่า 35 ปีและพยายามมา 6 เดือนแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ ในกรณีที่มีภาวะโรคประจำตัว เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือปัญหาต่อมไทรอยด์ ควรไปตรวจวินิจฉัยก่อนหน้านั้น