โรคติดต่อที่อาจส่งผ่านได้ในการบริจาคอสุจิ: ไวรัส แบคทีเรีย และความเสี่ยงทางพันธุกรรม

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
เขียนโดย ฟิโลมีนา มาร์กซ์13 มิถุนายน 2025
เทคนิคการปฏิบัติการห้องปฏิบัติการกำลังวิเคราะห์ตัวอย่างอสุจิ

ในประเทศไทย แต่ละครั้งมีผู้ใช้บริการบริจาคอสุจิมากกว่าหมื่นรายต่อปี เพื่อเติมเต็มความฝันในการมีครอบครัว วิธีการคัดกรองในห้องปฏิบัติการสมัยใหม่ช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างมาก แต่ยังคงมีความเสี่ยงตกค้างเล็กน้อย บทความนี้จะอธิบายว่าไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต และโรคทางพันธุกรรมใดบ้างที่อาจส่งผ่าน และการคัดกรองหลายขั้นตอนช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร

ทำไมต้องคัดกรองหลายขั้นตอน

เชื้อโรคมักผ่านช่วง ระยะหน้าต่าง ซึ่งมีเชื้อแต่ตรวจไม่พบด้วยการตรวจแอนติบอดีเพียงอย่างเดียว จึงแนะนำโดย กระทรวงสาธารณสุข และ สมาคมการเจริญพันธุ์แห่งประเทศไทย ให้ใช้การตรวจซีรั่มควบคู่กับ PCR และกักตัวตัวอย่างไว้อย่างน้อยหลายเดือนก่อนปล่อยให้ใช้

ไวรัสที่ตรวจพบได้ในน้ำอสุจิ

  • HIV – ตรวจ ELISA และ PCR พร้อมกักตัวตัวอย่าง
  • ไวรัสตับอักเสบบี และ ซี – ตรวจแอนติบอดีและแอนติเจน
  • ไวรัสเริมชนิด 1 และ 2 – ตรวจ PCR, ความเสี่ยงต่ำในผู้บริจาคที่ไม่มีอาการ
  • ไวรัสไซโตเมกาโล (CMV) – ตรวจ IgG/IgM, สำคัญในผู้รับที่ภูมิคุ้มกันต่ำ
  • ไวรัสซิกา – ตรวจ RT-PCR และแอนติบอดีหลังเดินทาง
  • HTLV I/II – พบได้น้อย แต่เชื่อมโยงมะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • HPV – ตรวจ PCR ชนิดเสี่ยงสูง
  • ไวรัสเวสต์ไนล์ และ เดงกี – สำคัญในผู้บริจาคจากเขตร้อน
  • SARS-CoV-2 – รวมในแผงตรวจช่วงการระบาด

แบคทีเรียและปรสิตในน้ำอสุจิ

  • คลามีเดีย – มักไม่มีอาการ ทำให้มีบุตรยาก
  • กอนอเรีย – ตรวจด้วย NAAT หรือเพาะเลี้ยง
  • ซิฟิลิส – TPPA และ VDRL จำเป็น
  • เชื้อในระบบสืบพันธุ์ เช่น E. coli และเอนเทอโรค็อกคัส
  • Trichomonas vaginalis – ลดคุณภาพอสุจิ
  • ไมโคพลาสมา/ยูเรียพลาสมา – มักไม่มีอาการ แต่ก่ออักเสบ

ความเสี่ยงทางพันธุกรรม

  • โรคซีสติกไฟโบรซิส – วิเคราะห์ยีน CFTR
  • โรคเทย์-แซกซ์ – ตรวจยีน HEXA
  • โรคกล้ามเนื้อฝ่อกระดูกสันหลัง – ตรวจยีน SMN1
  • โรคโลหิตจางเคียว และ ธาลัสซีเมีย – ตรวจฮีโมโกลบิน
  • กลุ่มอาการเอ็กซ์เปราะ – วิเคราะห์ยีน FMR1
  • การขาดไมโครดีลีชันของโครโมโซม Y
  • โรคเกาช์เชอร์ – ผู้บริจาคเชื้อสายยิวแอชเคนาซิ
  • แผงตรวจตามประชากร เช่น แฟนโคนนี, วิลสัน

โรคที่สามารถคัดกรองได้

การตรวจซีรั่ม PCR แผงยีน และการกักตัวหลายเดือน ช่วยคัดกรองเกือบทุกไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต และโรคทางพันธุกรรม ทำให้ความเสี่ยงตกค้างต่ำสุด

กระบวนการคัดกรอง

  1. ประวัติสุขภาพ – แบบสอบถามและให้คำปรึกษา
  2. ตรวจห้องปฏิบัติการ – ตรวจแอนติบอดี แอนติเจน และ PCR
  3. แผงตรวจยีน – คัดกรองโรคทางพันธุกรรมทั่วไป
  4. กักตัว – เก็บตัวอย่างอย่างน้อย 3 เดือน
  5. ทดสอบซ้ำ – ยืนยันไม่มีการติดเชื้อใหม่ก่อนใช้

บริจาครายบุคคล vs ธนาคารอสุจิ

ธนาคารอสุจิที่ได้รับการอนุมัติจาก สธ. มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานกักตัว และลงทะเบียนผู้บริจาค บริจาครายบุคคลอาจเป็นส่วนตัวและถูกกว่า แต่ต้องตกลงทดสอบและข้อตกลงทางกฎหมายเฉพาะ

หน้าจอหลักแอป RattleStork
รูปภาพ: RattleStork – แอปบริจาคอสุจิs

สรุป

การบริจาคอสุจิเปิดทางสู่การมีบุตร หลักการคัดกรองหลายขั้นตอนตามคำแนะนำของ สธ. และสมาคมการเจริญพันธุ์ ลดความเสี่ยงการติดเชื้อและโรคทางพันธุกรรมแทบเป็นศูนย์ เชื่อถือคลินิกที่ได้รับอนุมัติหรือแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ เพื่อมอบจุดเริ่มต้นที่ปลอดภัยที่สุดให้ครอบครัวในอนาคต

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ด้วย PCR และแอนติบอดี การกักตัว 3 เดือน และทดสอบซ้ำ ความเสี่ยงตกค้างต่ำกว่า 0.1%

ตรวจ HIV, ตับอักเสบ B/C, ซิฟิลิส, คลามีเดีย, หนองใน, CMV, HTLV, HPV และแผงยีน

ใช่ ตรวจทันทีและหลังการกักตัวด้วย ELISA และ PCR

จำเป็น ต้องตรวจ HBsAg, anti-HBc และ anti-HCV

ใช้ NAAT ทดสอบปัสสาวะหรือเชื้อจากท่อปัสสาวะ

ตรวจซีสติกไฟโบรซิส, SMA, ภาวะเลือดรูปเคียว/ธาลัสซีเมีย, กลุ่มอาการเอ็กซ์เปราะ และแผงเฉพาะกลุ่มประชากร

เพื่อครอบคลุมระยะหน้าต่าง ก่อนปล่อยทำการตรวจเลือดอีกครั้ง

ปกติค่าใช้จ่ายรวมการคัดกรองประมาณ 7,000–12,000 บาทต่อครั้ง

อายุ 18-40 ปี สุขภาพดี ทดสอบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่พบ และคุณภาพอสุจิเหมาะสม

ไม่ใช่ ธนาคารอสุจิที่ได้รับอนุมัติเท่านั้นที่มีมาตรฐานทดสอบและกักตัวครบถ้วน

เด็กมีสิทธิ์ทราบตัวตนผู้บริจาคเมื่อบรรลุนิติภาวะ

PCR ในตัวอย่างเสี่ยงสูง ตัวอย่างบวกจะถูกคัดออก

ซิกาอาจอยู่ในอสุจิเป็นเดือนและก่อให้เกิดความพิการ RT-PCR จะขจัดความเสี่ยงนี้

ใช่ หลายคลินิกรับผู้บริจาค CMV ลบเท่านั้นเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน

ประวัติ → ยินยอม → ตรวจเลือด/ปัสสาวะ → บริจาค → กักตัว → ทดสอบซ้ำ → ปล่อยใช้ → ฝังในมดลูก

โอกาสตั้งครรภ์ทางคลินิกคือ 15–20% ต่อครั้ง สะสมสามครั้งเกิน 50%

ตรวจความไวของเชื้อบวก แบคทีเรียดื้อจะถูกคัดออก

เก็บที่ −196 °C ในไนโตรเจนเหลว คงคุณภาพได้นานสิบปี

ส่วนใหญ่คลินิกรับผู้รับถึง 45 ปี เกินนั้นความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น

ชัดเจน จำนวนและการเคลื่อนที่ของอสุจิสูงช่วยเพิ่มโอกาสปฏิสนธิ ตรวจก่อนปล่อยทุกครั้ง