ธนาคารอสุจิในประเทศไทย 2568: รายชื่อศูนย์ที่รับ “ผู้บริจาคอสุจิ” จริง พร้อมกฎหมายและขั้นตอน

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
ซัปเพิลฟิลิป มาร์กซ์
แผนที่และรายชื่อธนาคารอสุจิในประเทศไทย ปี 2568 — สถานที่รับบริจาคอสุจิจริง

กำลังมองหาที่ “บริจาคอสุจิ” ในไทยอยู่หรือไม่? บทความนี้รวบรวมเฉพาะสถานที่ที่มีบริการธนาคารอสุจิ/รับบริจาคจริงในประเทศไทย พร้อมลิงก์ทางการ เกณฑ์สำคัญ และภาพรวมข้อกฎหมาย (อัปเดต: ตุลาคม 2568) โดยเน้นข้อมูลสำหรับผู้บริจาคเป็นหลัก

ข้อสังเกต: ในไทย “การบริจาคเพื่อการค้า” ถูกห้ามตามกฎหมาย การรับบริจาคส่วนใหญ่เป็นลักษณะไม่หวังผลตอบแทน และหลายคลินิกใช้สเปิร์มจากผู้บริจาคที่รู้จัก/แนะนำ หรือจากธนาคารต่างประเทศผ่านคลินิก ไม่ได้เปิดรับสมัครผู้บริจาคทั่วไป

ตัวเลขและกรอบอ้างอิง

  • กฎหมายหลัก: พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (ประกาศใช้ พ.ศ. 2558) กำหนดนิยาม การคุ้มครอง และห้ามการค้ากามีต/ตัวอ่อน รวมถึงการอุปการะเชิงพาณิชย์ ข้อความกฎหมาย (ฉบับภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ), บทวิเคราะห์เชิงวิชาการ
  • สถานะการบริจาคสเปิร์ม: “ทำได้ตามกฎหมาย แต่ห้ามเชิงพาณิชย์” คลินิกเอกชนหลัก ๆ ยืนยันแนวทางนี้ชัดเจน Bumrungrad: FAQ ทางการ
  • มาตรฐานห้องปฏิบัติการ: การประเมินและเตรียมอสุจิอ้างอิงคู่มือขององค์การอนามัยโลก (WHO) ฉบับที่ 6 WHO Laboratory Manual
  • อายุผู้บริจาคโดยทั่วไป: พบได้ช่วง 20–40 ปี ขึ้นกับเกณฑ์ศูนย์ (ต้องผ่านการคัดกรองสุขภาพ การติดเชื้อ และประวัติพันธุกรรมตามความเหมาะสม)
  • การกักกันตัวอย่าง: ตัวอย่างที่แช่แข็งจะถูกกักกันราว 6 เดือนก่อนปล่อยใช้ โดยมีการตรวจย้ำเรื่องโรคติดเชื้ออีกครั้ง (แนวปฏิบัติสากล)

สรุปย่อรายเมือง

กรุงเทพฯ: มี “ธนาคารอสุจิ” ระดับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย/รัฐที่ชัดเจน และคลินิกเอกชนชั้นนำด้าน ART ซึ่งส่วนมากไม่เปิดรับผู้บริจาคทั่วไป • ต่างจังหวัด: การเข้าถึงมักผ่านเครือคลินิก/การส่งต่อ หรือธนาคารต่างประเทศผ่านคลินิก

รายชื่อธนาคารอสุจิ/สถานที่ “รับบริจาคอสุจิ” ที่ยืนยันได้ (ก-ฮ ตามชื่อหน่วยงาน)

กรุงเทพมหานคร

ธนาคารอสุจิ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

  • หน่วยงาน: หน่วยชีววิทยาการเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
  • ข้อมูลทางการ: แนะนำบริการธนาคารอสุจิ ที่ตั้ง และผู้รับผิดชอบหน่วยงานอย่างเป็นทางการ
  • หน้าเว็บ: ข้อมูลธนาคารอสุจิ (จุฬาฯ)
  • หมายเหตุ: ให้บริการฝาก/เก็บรักษา และเป็นจุดอ้างอิงสำคัญสำหรับผู้ต้องการสอบถามเรื่องการบริจาคในระบบโรงพยาบาลรัฐ

ภาควิชาสูติ-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลศิริราช (มหิดล) — ข้อมูลการบริจาคอสุจิและไข่

  • หน่วยงาน: กลุ่มเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
  • หน้าเว็บ: คำถาม-คำตอบเรื่อง “การบริจาคอสุจิและไข่”
  • หมายเหตุ: อธิบายหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้บริจาคและเงื่อนไขทางการแพทย์/กฎหมาย เหมาะสำหรับผู้สนใจเริ่มต้นที่โรงเรียนแพทย์

ศูนย์มีบุตรยาก โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad) — ยืนยันสถานะทางกฎหมาย

เจตนิน (Jetanin Institute for Assisted Reproduction) — สถาบัน ART ชั้นนำ

  • บริการ ART ครบวงจรและงานวิชาการเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ/การใช้สเปิร์มผู้บริจาค
  • หน้าเว็บ: jetanin.com
  • หมายเหตุ: เปิดให้บริการ ART และมีองค์ความรู้ด้านผู้บริจาค แต่การรับบริจาคสาธารณะให้ติดต่อสอบถามโดยตรง

SAFE Fertility Group — เครือคลินิก ART ได้มาตรฐาน RTAC

  • ข้อมูลหน่วยงาน: SAFE Fertility Group
  • หมายเหตุ: เป็นศูนย์ ART ที่ได้การรับรองระดับสากล ให้ติดต่อโดยตรงเรื่องนโยบายการรับบริจาค (ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่เน้นการใช้ผู้บริจาคที่รู้จัก/ธนาคารต่างประเทศ)

นอกเหนือจากข้างต้น คลินิก ART เอกชนอีกหลายแห่งในกรุงเทพฯ ให้บริการรักษาด้วย “สเปิร์มผู้บริจาค” แต่ไม่ได้เปิดรับสมัครผู้บริจาคทั่วไปอย่างเป็นทางการ โดยมักดำเนินการผ่านผู้บริจาคที่รู้จักกัน หรือผ่านธนาคารต่างประเทศภายใต้กรอบกฎหมายไทย

ขั้นตอนการเป็นผู้บริจาคอสุจิ (ภาพรวมปฏิบัติ)

  1. ติดต่อหน่วยงานที่มี “ธนาคารอสุจิ” โดยตรง (เช่น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย/รัฐ) เพื่อคัดกรองเบื้องต้นด้านอายุ สุขภาพ และภูมิลำเนา
  2. ให้ตัวอย่างทดสอบหลังงดเพศสัมพันธ์/ช่วยตัวเอง 3–5 วัน เพื่อประเมินความเข้มข้น การเคลื่อนไหว และรูปร่างอสุจิ ตามเกณฑ์ WHO
  3. ตรวจสุขภาพและโรคติดเชื้อ (HIV, ไวรัสตับอักเสบบี/ซี, ซิฟิลิส ฯลฯ) และอาจมีการประเมินพันธุกรรมตามความเหมาะสม
  4. ลงนามเอกสารยินยอมตามแบบของหน่วยงาน ภายใต้ข้อจำกัดตามกฎหมายไทย (ไม่เชิงพาณิชย์ การเปิดเผยข้อมูลจำกัด และข้อกำหนดคู่สมรสในบางกรณี)
  5. แช่แข็งและกักกันตัวอย่าง ~6 เดือน พร้อมตรวจย้ำก่อน “ปล่อยใช้” ทางคลินิก

เคล็ดลับคงคุณภาพตัวอย่าง: รักษาเวลานัด งด 3–5 วันก่อนบริจาค พักผ่อนเพียงพอ เลี่ยงบุหรี่/ความร้อน (อบไอน้ำ อ่างน้ำร้อน) ลดแอลกอฮอล์และคาเฟอีน

กฎหมายไทยและคุณภาพ — สิ่งที่ควรรู้

  • กฎหมาย ART ไทย: ห้ามการค้ากามีต/ตัวอ่อน และกำหนดให้การบริจาคเป็นไปอย่างไม่หวังผลตอบแทนและอยู่ภายใต้ความยินยอมที่ถูกต้อง เอกสารกฎหมาย (EN), บทความวิชาการปี 2020
  • แนวปฏิบัติคลินิกเอกชน: ยืนยันว่า “บริจาคได้ แต่ไม่เชิงการค้า” และมีข้อกำหนดเรื่องเอกสารคู่สมรส/การยินยอม FAQ ของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ
  • มาตรฐานแลบ: ใช้เกณฑ์ WHO สำหรับการวิเคราะห์น้ำอสุจิและการเตรียมตัวอย่าง WHO Manual

ช่องทางทางเลือกเมื่อ “ไม่ได้รับสมัครผู้บริจาคทั่วไป”

หากหน่วยงานในไทยไม่เปิดรับผู้บริจาคทั่วไปในช่วงเวลานั้น ผู้ป่วยมักดำเนินการผ่านผู้บริจาคที่รู้จักกัน (ตามกรอบกฎหมายไทย) หรือใช้ตัวอย่างจากธนาคารต่างประเทศผ่านคลินิกไทยที่ได้รับอนุญาต ซึ่งต้องปฏิบัติตามห่วงโซ่ความเย็นและเอกสารกำกับอย่างเข้มงวด

สรุป

ภูมิทัศน์การ “บริจาคอสุจิ” ในไทยแตกต่างจากหลายประเทศ: การบริจาคเชิงพาณิชย์ถูกห้าม และการรับสมัครสาธารณะมีจำกัด จุดหลักที่ประชาชนเข้าถึงได้จริงคือธนาคารอสุจิของโรงพยาบาลรัฐ/มหาวิทยาลัย (เช่น จุฬาฯ) และหน่วยแพทย์ในโรงเรียนแพทย์ (ศิริราช) ส่วนคลินิกเอกชนชั้นนำให้บริการ ART ครบวงจรและยืนยันข้อกฎหมายชัดเจน แต่การเปิดรับผู้บริจาคมักต้องสอบถามเป็นรายกรณี

หากตั้งใจบริจาค แนะนำให้เริ่มจากโรงพยาบาลที่มี “ธนาคารอสุจิ” ระดับสถาบันก่อน ตรวจสอบคุณสมบัติ เอกสารยินยอม และกำหนดเวลาการกักกันตัวอย่างให้พร้อม แล้วจึงพิจารณาทางเลือกอื่นผ่านคลินิกเอกชนตามความเหมาะสม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ชายที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 45 ปี มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือโรคทางพันธุกรรม สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นผู้บริจาคสเปิร์มได้ ต้องผ่านการตรวจร่างกายและให้ความยินยอมอย่างเป็นทางการก่อนเริ่มบริจาค

ในประเทศไทยโดยทั่วไปการบริจาคสเปิร์มจะเป็นแบบไม่เปิดเผยตัว เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของทั้งผู้บริจาคและผู้รับ แต่ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในระบบทางการแพทย์เพื่อความปลอดภัยและความถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้บริจาคจะไม่ได้รับค่าจ้าง แต่จะได้รับค่าชดเชยสำหรับเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการบริจาค เช่น ค่าพาหนะหรือค่าเดินทางไปคลินิก

เริ่มจากการยื่นใบสมัครกับคลินิกที่ได้รับอนุญาต ทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือดและตรวจทางพันธุกรรม จากนั้นทำการทดสอบสเปิร์ม ถ้าผ่านเกณฑ์จะได้รับเชิญให้บริจาคจริงตามรอบที่กำหนด

การตรวจประกอบด้วยการตรวจเลือดหาการติดเชื้อ เช่น HIV ไวรัสตับอักเสบ และซิฟิลิส รวมถึงการตรวจสเปิร์ม การตรวจพันธุกรรม และการตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อความปลอดภัยของผู้บริจาคและผู้รับ

โดยทั่วไปจะบริจาคทุก 1 ถึง 2 สัปดาห์ เป็นระยะเวลาหลายเดือน เพื่อให้ได้จำนวนตัวอย่างที่เพียงพอสำหรับการแช่แข็งและเก็บไว้ในธนาคารสเปิร์ม

การเก็บตัวอย่างไว้ในระยะกักกันประมาณ 6 เดือนเพื่อความปลอดภัย หลังจากนั้นจะมีการตรวจเลือดและตัวอย่างอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อก่อนนำไปใช้จริง

ไม่สามารถทำได้ ผู้บริจาคแต่ละคนจะบริจาคกับคลินิกที่ได้รับอนุญาตเพียงแห่งเดียว เพื่อควบคุมการติดตามข้อมูลและป้องกันการบริจาคมากเกินไป

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 4 ถึง 8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับตารางตรวจสุขภาพ การทดสอบ และการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละราย

หากตรวจพบโรคติดต่อ โรคทางพันธุกรรม การใช้ยาเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือมีคุณภาพสเปิร์มต่ำกว่ามาตรฐาน จะไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกบริจาค

ข้อมูลของผู้บริจาคจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยเป็นเวลาหลายปีตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ในอนาคตหากจำเป็น

ไม่มีผลต่อความสามารถในการมีบุตร การบริจาคสเปิร์มเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและไม่ทำให้ปริมาณหรือคุณภาพสเปิร์มของผู้บริจาคลดลงในระยะยาว

สามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อโดยแจ้งกับคลินิกที่ดูแลอยู่ ตัวอย่างที่บริจาคไปแล้วจะถูกเก็บไว้ตามกฎความปลอดภัยทางการแพทย์

ควรงดการหลั่งเป็นเวลา 2 ถึง 3 วันก่อนมาบริจาค นอนหลับเพียงพอ งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ และหลีกเลี่ยงอาหารมันหรือคาเฟอีนมากเกินไป เพื่อให้ได้คุณภาพสเปิร์มที่ดีที่สุด

ควรอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้คลินิก เนื่องจากการบริจาคต้องมาหลายครั้งต่อเนื่องและต้องส่งตัวอย่างภายในเวลาสั้นเพื่อคงคุณภาพของสเปิร์ม

โดยทั่วไปเด็กที่เกิดจากการบริจาคไม่สามารถรู้ตัวตนของผู้บริจาคได้ ยกเว้นในกรณีที่มีการเปิดเผยโดยสมัครใจภายใต้ข้อตกลงพิเศษของคลินิกและผู้บริจาค

สามารถทำได้หากให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร บางคลินิกมีโครงการร่วมกับสถาบันวิจัยทางการแพทย์ โดยจะใช้ตัวอย่างเพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากเพียงพอ หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น ห้องอบซาวน่าหรือแช่น้ำร้อน และไม่วางคอมพิวเตอร์บนตักบ่อยเกินไป

ตั้งแต่เริ่มสมัครจนจบการบริจาคทั้งหมดมักใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับตารางการนัดหมายและการตรวจรับรองความปลอดภัยของตัวอย่าง