กำลังมองหาสถานที่ “บริจาคอสุจิ” ในไทยอยู่หรือไม่? บทความนี้คัดเฉพาะหน่วยงานและศูนย์ที่มีข้อมูลทางการเกี่ยวกับธนาคารอสุจิหรือการใช้สเปิร์มผู้บริจาค พร้อมลิงก์อ้างอิง กรอบกฎหมาย และขั้นตอนโดยสรุป (อัปเดต: ตุลาคม 2568) โดยเน้นข้อมูลที่ผู้บริจาคควรรู้จริง ๆ
ข้อเท็จจริงสำคัญ: ประเทศไทย อนุญาตให้บริจาคอสุจิได้แต่ไม่เชิงพาณิชย์ การรับสมัครผู้บริจาคแบบสาธารณะจึงมีจำกัด หลายแห่งใช้ผู้บริจาคที่รู้จัก/แนะนำ หรือใช้ตัวอย่างจากต่างประเทศผ่านคลินิกที่ได้รับอนุญาต
ตัวเลขและกรอบอ้างอิง
- สถานะทางกฎหมาย: คลินิกชั้นนำยืนยันแนวทาง “ทำได้แต่ไม่เชิงพาณิชย์” ตามกฎหมายไทยเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ดูคำอธิบายทางการของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ Bumrungrad – General FAQs
- มาตรฐานห้องปฏิบัติการ: การวิเคราะห์และเตรียมน้ำอสุจิอ้างอิงคู่มือองค์การอนามัยโลก ฉบับที่ 6 WHO Laboratory Manual (6th ed.)
- ภูมิหลังในไทย: มีการพัฒนาธนาคารอสุจิในสถาบันการแพทย์ของรัฐ โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นจุดเริ่มสำคัญของบริการลักษณะนี้ บทความวิชาการสรุปประวัติ
- อายุผู้บริจาคโดยทั่วไป: พบช่วงราว 20–40 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงาน และต้องผ่านการคัดกรองสุขภาพและโรคติดเชื้อ
- การกักกันตัวอย่าง: ตัวอย่างแช่แข็งมักถูกกักกันประมาณ 6 เดือน และมีการตรวจย้ำโรคติดเชื้อก่อนอนุญาตให้นำไปใช้
รายชื่อหน่วยงาน/ศูนย์ที่เกี่ยวข้อง (กรุงเทพมหานครเป็นหลัก)
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
- หน่วยงาน: หน่วยชีววิทยาการเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติ-นรีเวชวิทยา
- ข้อมูลทางการ: แนะนำบริการธนาคารอสุจิ สถานที่ และผู้รับผิดชอบหน่วยงาน
- หน้าเว็บ: หน้า “ธนาคารอสุจิ” (จุฬาฯ)
- หมายเหตุ: จุดอ้างอิงระดับชาติ เหมาะสำหรับเริ่มต้นสอบถามขั้นตอนผู้บริจาคในระบบรัฐ
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- บทความสุขภาพ/คู่มือผู้รับบริการ: เคล็ดลับและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการฝากเก็บ/บริจาคอสุจิ
- หน้าเว็บ: บทความสุขภาพศิริราช
- หมายเหตุ: ให้ภาพรวมการดูแลผู้มีบุตรยากและงานห้องปฏิบัติการในระบบโรงเรียนแพทย์
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad International Hospital)
- นโยบาย/กฎหมาย: ยืนยัน “บริจาคอสุจิทำได้ แต่ห้ามเชิงพาณิชย์”
- บริการ ART: IUI/IVF/ICSI และห้องปฏิบัติการครบวงจร
- ลิงก์: General FAQs • Fertility & IVF Center
สถาบันเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์เจตนิน (Jetanin Institute)
- ให้บริการ ART ครบวงจร (IVF/ICSI/PGT ฯลฯ) และองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้สเปิร์มผู้บริจาค
- ลิงก์: jetanin.com • บริการ
- หมายเหตุ: การ “รับสมัครผู้บริจาคทั่วไป” ให้สอบถามศูนย์โดยตรงเป็นรายกรณี
SAFE Fertility Group
- เครือคลินิก ART ที่ได้รับการรับรอง RTAC (มาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์)
- ลิงก์: SAFE – Home • About
- หมายเหตุ: เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้สเปิร์มผู้บริจาคผ่านคลินิกภายใต้กรอบกฎหมายไทย
นอกเหนือจากหน่วยงานหลักในกรุงเทพฯ ยังมีคลินิก ART เอกชนอีกหลายแห่งที่ให้บริการรักษาด้วย “สเปิร์มผู้บริจาค” แต่ไม่ได้เปิดรับสมัครผู้บริจาคทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ มักดำเนินการผ่านผู้บริจาคที่รู้จัก หรือผ่านธนาคารต่างประเทศภายใต้ข้อกำกับที่เข้มงวด
ขั้นตอนการเป็นผู้บริจาคอสุจิ (ฉบับปฏิบัติ)
- ติดต่อหน่วยงานที่มี “ธนาคารอสุจิ” โดยตรง (เช่น จุฬาฯ/ศิริราช) เพื่อคัดกรองเบื้องต้นด้านอายุ สุขภาพ และภูมิลำเนา
- ให้ตัวอย่างทดสอบหลังงดเพศสัมพันธ์/ช่วยตัวเอง 3–5 วัน เพื่อประเมินความเข้มข้น การเคลื่อนไหว และรูปร่างอสุจิตามเกณฑ์ WHO
- ตรวจสุขภาพและโรคติดเชื้อ (เช่น HIV ไวรัสตับอักเสบบี/ซี ซิฟิลิส) และอาจมีการประเมินทางพันธุกรรมตามความเหมาะสม
- ลงนามเอกสารยินยอมตามแบบของหน่วยงาน ภายใต้กรอบ “ไม่เชิงพาณิชย์” และข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูล
- แช่แข็งและกักกันตัวอย่างประมาณ 6 เดือน พร้อมตรวจย้ำก่อนปล่อยใช้
เคล็ดลับคงคุณภาพตัวอย่าง: รักษาเวลานัด งด 3–5 วันก่อนบริจาค พักผ่อนเพียงพอ เลี่ยงบุหรี่และความร้อนสูง (ซาวน่า/อ่างน้ำร้อน) ลดแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
กฎหมายไทยและคุณภาพ — สิ่งที่ควรรู้
- ไทยอนุญาตให้บริจาคอสุจิได้ แต่ห้ามเชิงพาณิชย์ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนยินยอมและข้อกำหนดของหน่วยงานที่กำกับดูแล ดูนโยบายอธิบายโดยโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ Bumrungrad FAQs
- มาตรฐานห้องปฏิบัติการ: ใช้คู่มือ WHO ฉบับที่ 6 สำหรับการวิเคราะห์และเตรียมตัวอย่างอสุจิ WHO Manual
- ภูมิหลังประเทศ: สถาบันรัฐ เช่น จุฬาฯ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ART และบริการธนาคารอสุจิของไทย บทความวิชาการ
ตัวเลือกเมื่อ “ไม่ได้เปิดรับผู้บริจาคทั่วไป”
หากช่วงเวลานั้นหน่วยงานไทยไม่เปิดรับผู้บริจาคทั่วไป ผู้ป่วยมักเลือกใช้ผู้บริจาคที่รู้จักกันตามกฎหมายไทย หรือใช้ตัวอย่างจากธนาคารต่างประเทศผ่านคลินิกที่ได้รับอนุญาต โดยต้องรักษาห่วงโซ่ความเย็น เอกสารกำกับ และการตรวจติดตามอย่างเข้มงวด

เริ่มต้นกับ RattleStork: สำรวจผู้บริจาคอสุจิและตัวเลือกการร่วมเป็นพ่อแม่ ผ่านมาร์เก็ตเพลสที่ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล มีตัวกรองคุณสมบัติ และแม่แบบข้อตกลงที่ปรับใช้ได้ เพื่อให้กระบวนการโปร่งใสและเป็นระบบ
สรุป
ภูมิทัศน์ “การบริจาคอสุจิ” ในไทยแตกต่างจากหลายประเทศ: ทำได้แต่ต้องไม่เชิงพาณิชย์ และการรับสมัครสาธารณะมีจำกัด ช่องทางที่ประชาชนเข้าถึงได้จริงคือหน่วยงานสถาบัน (เช่น จุฬาฯ/ศิริราช) และคลินิก ART ชั้นนำที่ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายไทย
หากตั้งใจบริจาค แนะนำให้เริ่มจากหน่วยงานที่มี “ธนาคารอสุจิ” ระดับสถาบัน ตรวจสอบคุณสมบัติ เอกสารยินยอม และแผนการกักกันตัวอย่างให้พร้อม แล้วพิจารณาทางเลือกผ่านคลินิกเอกชนหรือการใช้ตัวอย่างจากต่างประเทศตามความเหมาะสม

