สเปิร์มมาแกรมในประเทศไทย – ขั้นตอน ค่าใช้จ่าย ค่ามาตรฐาน WHO และเคล็ดลับคุณภาพอสุจิ

โปรไฟล์ของผู้เขียน
เขียนโดย ฟิโลมีนา มาร์กซ์9 มิถุนายน 2025
ภาพห้องปฏิบัติการ: การตรวจตัวอย่างอสุจิภายใต้กล้องจุลทรรศน์

สเปิร์มมาแกรมเป็นขั้นตอนแรกที่หลายคู่สมรสในไทยใช้เมื่อตั้งครรภ์ช้า การวิเคราะห์ตามมาตรฐาน WHO ช่วยประเมินความเข้มข้น การเคลื่อนไหว และรูปร่างของอสุจิ ในบทความนี้คุณจะได้ทราบขั้นตอนการตรวจ ค่าใช้จ่ายทั้งสิทธิบัตรทองและคลินิกเอกชน ค่ามาตรฐานล่าสุดของ WHO และเคล็ดลับที่พิสูจน์แล้วว่า ช่วยปรับปรุงคุณภาพตัวอย่างอสุจิได้

สเปิร์มมาแกรมคืออะไร?

สเปิร์มมาแกรมเป็นการตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินภาวะเจริญพันธุ์ชาย โดยวัด:

  • ความเข้มข้นของอสุจิ – จำนวนอสุจิต่อมิลลิลิตร
  • การเคลื่อนไหว (Motility) – สัดส่วนอสุจิที่เคลื่อนไหวได้
  • รูปร่าง (Morphology) – สัดส่วนอสุจิที่มีรูปร่างปกติ
  • ปริมาณน้ำอสุจิ – ปริมาตรรวมของน้ำอสุจิ
  • การมีชีวิต (Vitality) – สัดส่วนอสุจิที่ยังมีชีวิต
  • ค่า pH – บ่งชี้การอักเสบหรือภาวะกรดด่างไม่สมดุล
  • จำนวนเม็ดเลือดขาว – เพิ่มขึ้นบ่งชี้การติดเชื้อ

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แพทย์ประเมินโอกาสในการปฏิสนธิเองตามธรรมชาติได้

เมื่อใดควรตรวจสเปิร์มมาแกรม?

แนะนำให้ตรวจเมื่อมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอโดยไม่ใช้คุมกำเนิดติดต่อกัน 12 เดือนแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ หากอายุมากขึ้นหรือมีปัจจัยเสี่ยง (เช่น ริดสีดวงขอดอัณฑะ เคมีบำบัด) อาจเริ่มตรวจหลัง 6 เดือน

  • ภาวะมีบุตรยากครั้งแรกหรือครั้งที่สอง
  • ผลตรวจฮอร์โมนผิดปกติ
  • ตรวจก่อน/หลังทำหมันชาย (vasectomy)
  • ภรรยามีการแท้งซ้ำ
  • เคยผ่าตัดหรือได้รับรังสีบริเวณอุ้งเชิงกราน

ค่าใช้จ่ายและสิทธิบัตรทอง/ประกันสังคม

หากมีสิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม (มาตรา 33) สเปิร์มมาแกรมมักครอบคลุมโดยตรงเมื่อมีใบส่งตัวจากแพทย์ ในคลินิกเอกชนราคาประมาณ ฿800–฿1,500 ต่อการตรวจ และอาจมีส่วนลดสำหรับแพ็กเกจสองครั้ง

ขั้นตอนสเปิร์มมาแกรม: การเตรียมตัวและการเก็บตัวอย่าง

การเตรียมตัว:

  • งดการหลั่งอสุจิ 2–7 วันก่อนตรวจ
  • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเสพติด 48 ชม. ก่อนตรวจ
  • ไม่ควรมีไข้หรือการติดเชื้อเฉียบพลัน
  • พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด

การเก็บตัวอย่าง:

  • ล้างมือและอวัยวะเพศด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ
  • ห้ามใช้สารหล่อลื่นหรือถุงยางเจล
  • เก็บอสุจิทั้งหมดในภาชนะที่ปลอดเชื้อจากห้องปฏิบัติการ

หากเก็บตัวอย่างที่บ้าน ให้เก็บในอุณหภูมิร่างกาย (~37 °C) แล้วส่งถึงห้องปฏิบัติการภายใน 60 นาที

ค่ามาตรฐาน WHO 2021

  • ปริมาตร: ≥ 1.5 มล.
  • ความเข้มข้น: ≥ 15 ล้านตัวอสุจิต่อมล.
  • จำนวนรวม: ≥ 39 ล้านตัวต่อการหลั่ง
  • มอไทลิตี้รวม: ≥ 40 %
  • มอไทลิตี้ก้าวหน้า: ≥ 32 %
  • มอร์โฟโลยี: ≥ 4 %
  • การมีชีวิต: ≥ 58 %
  • ค่า pH: ≥ 7.2

หากค่าต่ำกว่าอาจบ่งชี้ความเสี่ยง มีบุตรยาก แต่ไม่ใช่การันตีภาวะมีบุตรยากเสมอไป

คุณภาพห้องปฏิบัติการ: ควรเลือกอย่างไร

ห้องปฏิบัติการควรมีมาตรฐาน ISO 15189 และเข้าร่วมการทดสอบคุณภาพภายนอก (EQA) ปฏิบัติตามคู่มือ WHO อย่างเคร่งครัด และการตรวจซ้ำโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยสองคน

ระยะเวลาและวิธีรายงานผล

การวิเคราะห์ใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้เวลาประมาณ 60–120 นาที ผลเป็นลายลักษณ์อักษรจะพร้อมภายใน 2–4 วันทำการ และมักส่งผ่านระบบออนไลน์ก่อนนัดหมายแพทย์เพื่ออธิบายรายละเอียด

การตีความผลที่ผิดปกติ

  • Oligozoospermia – จำนวนอสุจิต่ำ
  • Asthenozoospermia – การเคลื่อนไหวลดลง
  • Teratozoospermia – รูปร่างผิดปกติ
  • Cryptozoospermia – ความเข้มข้นต่ำมาก
  • Azoospermia – ไม่มีอสุจิ

ควรทำซ้ำอีกครั้งหลัง 6 สัปดาห์เพื่อคัดกรองความผันแปรตามธรรมชาติ

สาเหตุหลักที่อาจลดคุณภาพอสุจิ

  • ความผิดปกติของฮอร์โมน (Testosterone, FSH, LH, Prolactin)
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม (เช่น กลุ่มอาการไคล์นเฟลเตอร์)
  • การติดเชื้อ (Chlamydia, mumps orchitis)
  • วิถีชีวิต: สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ อ้วน เครียดเรื้อรัง
  • ปัจจัยสิ่งแวดล้อม: ความร้อน สารเคมี โลหะหนัก

ไข้สูงหรือยาบางชนิดอาจส่งผลชั่วคราวต่อผลตรวจได้

6 เคล็ดลับปรับปรุงคุณภาพอสุจิ

  • อาหารสมดุล: แหล่งสารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามิน C, E, สังกะสี), โอเมกา 3
  • ออกกำลังกายพอเหมาะ: หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น ขี่จักรยานนานหรือเข้า sauna
  • ลดสารพิษ: เลิกสูบบุหรี่และจำกัดแอลกอฮอล์
  • จัดการความเครียด: ฝึกสมาธิ yoga หรือเทคนิคหายใจ
  • รักษาอุณหภูมิอัณฑะ: ใส่กางเกงในหลวม หลีกเลี่ยงวางโน้ตบุ๊กบนตัก
  • อาหารเสริม: CoQ10 หรือ L-carnitine — ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

การศึกษาNagy et al., 2021 พบว่าเคล็ดลับเหล่านี้ช่วยเพิ่มจำนวนและ motility ของอสุจิได้อย่างมีนัยสำคัญ

การตรวจเพิ่มเติมและวิธีการช่วยตั้งครรภ์

หากผลผิดปกติมาก แพทย์อาจแนะนำ:

  • ตรวจฮอร์โมนเจาะจง
  • ตรวจทางพันธุกรรม (kariotype, Y-microdeletion)
  • อัลตร้าซาวด์อัณฑะ
  • ทดสอบ DNA fragmentation
  • ผ่าตัดเก็บอสุจิ (TESE/MESA) ในกรณี azoospermia

กระบวนการช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น IVF หรือ ICSI ช่วยให้ตั้งครรภ์ได้แม้คุณภาพอสุจิต่ำ

ผลเป็นปกติ — ขั้นตอนต่อไป?

หากผลเป็นปกติ สาเหตุจากฝั่งชายส่วนใหญ่ถูกตัดออก แต่หากยังไม่ตั้งครรภ์ ควรตรวจคู่สมรส (ติดตามรอบเดือน, ตรวจฮอร์โมน, post-coital test) และรับคำปรึกษาจากคลินิกผู้เชี่ยวชาญต่อไป

บทสรุป

สเปิร์มมาแกรมช่วยให้เห็นภาพรวมภาวะเจริญพันธุ์ชายได้ชัดเจน ความผิดปกติส่วนใหญ่สามารถปรับปรุงได้ด้วยวิธีปรับวิถีชีวิต การรักษาทางการแพทย์ หรือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ แม้ผลตรวจเป็นปกติ การร่วมมือของทั้งสองฝ่ายก็ยังเป็นกุญแจสำคัญ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)