การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นขั้นตอนมาตรฐานระดับสูงในเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เมื่อวิธีการที่ง่ายกว่านั้นไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะอธิบายทุกขั้นตอน ค่าใช้จ่าย อัตราความสำเร็จ ความเสี่ยง และแนวโน้มใหม่ ๆ ในประเทศไทยอย่างครบถ้วนและเข้าใจง่าย
ค่าใช้จ่าย & การจัดการ IVF ในประเทศไทย
ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำ IVF 1 รอบในไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 – 250,000 บาท แยกรายการประมาณ:
- กระตุ้นรังไข่ & ตรวจติดตาม (Stimulation & Monitoring): 30,000 – 60,000 บาท
- เจาะเก็บไข่ & ห้องปฏิบัติการ (Egg retrieval & Lab): 70,000 – 120,000 บาท
- ย้ายตัวอ่อน & ติดตามหลังการย้าย (Transfer & Aftercare): 20,000 – 30,000 บาท
- แช่แข็งตัวอ่อนสำรอง: ประมาณ 20,000 บาท + ค่าเก็บรักษา 5,000 บาท/ปี
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: ผู้ป่วยในไทยส่วนใหญ่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ประกันสุขภาพกลุ่มอาจครอบคลุมเพียงบางส่วน ส่วนประกันสังคม (SSO) และ NHSO ยังไม่ครอบคลุมการทำ IVF
ขั้นตอนแบบทีละขั้นของการทำ IVF
- การกระตุ้นรังไข่: ฉีดยากระตุ้น 8–12 วัน พร้อมอัลตราซาวนด์และตรวจเลือดเป็นระยะ
- ยากระตุ้นให้ตกไข่: ใช้ hCG หรือ GnRH ประมาณ 34–36 ชั่วโมงก่อนเจาะไข่
- การเจาะเก็บไข่ (Oocyte retrieval): ทำเป็นผู้ป่วยนอกภายใต้การวางยานอนหลับระดับเบา
- เตรียมอสุจิ: คัดกรองและเข้มข้นตัวอสุจิให้พร้อมใช้งาน
- การปฏิสนธิในห้องแล็บ: ทำ IVF แบบมาตรฐาน หรือใช้ ICSI เมื่อคุณภาพอสุจิจำกัด
- การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน: เพาะในอินคิวบเตอร์ควบคุมอุณหภูมิจนถึงวัน 3 (8 เซลล์) หรือวัน 5 (บลาสโตซิสต์)
- ย้ายตัวอ่อน: ส่วนใหญ่ใช้ Single-Embryo Transfer (SET) เพื่อลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์แฝด
- การสนับสนุนด้วยฮอร์โมน: ให้ Progesterone ทางช่องคลอดจนถึงประมาณสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์
- ตรวจตั้งครรภ์: เจาะเลือดตรวจ β-hCG 12–14 วันหลังย้ายตัวอ่อน และอัลตราซาวนด์ครั้งแรกอีก 10 วันถัดมา
- Freeze-all & Kryo-Transfer (ทางเลือก): หากเสี่ยง OHSS หรือเยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อม แช่แข็งตัวอ่อนทั้งหมด แล้วย้ายในรอบ HRT ถัดไป
อัตราความสำเร็จของ IVF
ข้อมูลอัตราความสำเร็จในไทย (รวม PGT) แบ่งตามช่วงอายุผู้หญิงดังนี้:
- < 29 ปี – ประมาณ 72.5%
- 30–34 ปี – ประมาณ 69.4%
- 35–39 ปี – ประมาณ 65.6%
- ≥ 40 ปี – ประมาณ 63%
สำหรับผู้หญิงอายุต่ำกว่า 35 ปี อัตราความสำเร็จต่อรอบอาจสูงถึง 60–70% และอัตราการตั้งครรภ์สะสม (รวมรอบ Cryo) มักเกิน 70%
ใครบ้างที่อาจไม่เหมาะกับ IVF?
- ปริมาณไข่สำรองต่ำมาก (AMH < 0.5 ng/ml) และอายุมากกว่า 45 ปี
- มีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ดี เช่น เบาหวานหรือปัญหาต่อมไทรอยด์
- โรคเลือดบางชนิดที่ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อน
ในกรณีเหล่านี้มักแนะนำให้ปรับปรุงสุขภาพพื้นฐานก่อนเข้าสู่กระบวนการ IVF
เคล็ดลับเพิ่มโอกาสสำเร็จ
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เลิกสูบบุหรี่ ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสริมโฟลิคและวิตามินดีทุกวัน
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิคปานกลาง ลดความเครียดด้วยโยคะหรือการบำบัดจิตใจ (CBT)
- ปรับปรุงคุณภาพอสุจิด้วยการปรับวิถีชีวิต 90 วันก่อน เช่น โภชนาการที่เหมาะสมและอาหารเสริม
- พิจารณาใช้ CoQ10 หรือ DHEA สำหรับผู้ที่เป็น Low-Responder แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
แนวโน้ม & นวัตกรรมใหม่ล่าสุด
- การคัดเลือกตัวอ่อนด้วย AI วิเคราะห์ข้อมูล morphokinetic เพื่อเพิ่มโอกาสฝังตัว
- Time-Lapse Incubator ติดตามการแบ่งเซลล์ตัวอ่อนไม่ขาดตอน
- PGT-A / PGT-M ตรวจคัดกรองโครโมโซมเพื่อลดอัตราการแท้ง
- Natural-Cycle & Mild IVF ใช้ฮอร์โมนในปริมาณต่ำเพื่อลดผลข้างเคียง
- Social Freezing แช่แข็งไข่ล่วงหน้าก่อนอายุ 35 ปี เพื่อรักษาคุณภาพไข่
ความเสี่ยง & ผลข้างเคียง
- OHSS: ผู้ที่ตอบสนองสูงมีความเสี่ยง แนะนำให้ใช้ Freeze-all เพื่อลดโอกาสเกิด
- ฝาแฝด: การทำ SET ช่วยลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์แฝด
- ผลระยะยาว: มีรายงานเล็กน้อยเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์จากการ IVF
- ผลกระทบทางจิตใจ: อาจเกิดความเครียดสูง ควรได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตแพทย์หรือกลุ่มสนับสนุน
- ภาระทางการเงิน: ค่าใช้จ่ายสูง ต้องเตรียมงบสำหรับยา PGT และรอบ Cryo เพิ่มเติม
ด้านกฎหมายในประเทศไทย
- ให้บริการเฉพาะคู่สมรส ต้องแสดงสำเนาทะเบียนสมรสก่อนเริ่มรักษา
- อนุญาตให้บริจาคไข่และอสุจิแบบไม่แสวงหากำไร ห้ามบริจาคเพื่อการค้า
- บริการซูเปอร์โกตัวอ่อนไม่เปิดให้บริการแก่ชาวต่างชาติ ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงกฎหมาย
- คลินิกและแพทย์ต้องได้รับการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย