แอปพลิเคชันและเว็บไซต์สำหรับการบริจาคอสุจิในประเทศไทย: การเปรียบเทียบอย่างละเอียดในปี 2025

รูปผู้เขียนเขียนโดย ฟิโลมีนา มาร์กซ์26 มีนาคม 2025
แอปพลิเคชันการบริจาคอสุจิ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การวางแผนครอบครัวและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในประเทศไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่เพียงมีธนาคารอสุจิแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมี แพลตฟอร์มดิจิทัลและแอปพลิเคชันหลากหลายที่มอบทางเลือกมากขึ้นและเป็นส่วนตัวกว่า สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร ไม่ว่าคุณจะเป็นคนโสด เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBTQ+ หรืออยู่ ในความสัมพันธ์ชายหญิงปกติ ก็สามารถเข้าถึงโอกาสที่กว้างขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณไป รู้จักแอปและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคอสุจิที่น่าสนใจในบริบทของประเทศไทย รวมถึง พิจารณาประเด็นทางกฎหมายและทางการแพทย์ที่ควรทราบ

แอปพลิเคชันการบริจาคอสุจิคืออะไร?

แอปพลิเคชันสำหรับการบริจาคอสุจิเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการใช้สเปิร์มหรือวางแผนครอบครัว สามารถติดต่อผู้บริจาคได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารอสุจิแบบดั้งเดิมเสมอไป ปกติแล้ว แอปเหล่านี้จะแสดงโปรไฟล์ของผู้บริจาคอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพภายนอก สุขภาพทางพันธุกรรม การศึกษา และความสนใจส่วนตัว ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานอาจเลือก ที่จะทำการบริจาคแบบไม่เปิดเผยชื่อ หรืออาจตกลงเพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริจาคในระยะยาว

แอปพลิเคชันและเว็บไซต์การบริจาคอสุจิที่น่าสนใจ

1. RattleStork

  • แพลตฟอร์ม: iOS, Android, Web
  • คุณลักษณะหลัก: โปรไฟล์ผู้บริจาคที่ละเอียด, สื่อสารโดยตรง, ปรับรูปแบบข้อตกลงได้
  • ค่าใช้จ่าย: ขณะนี้ฟรี (อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสัมผัสการพูดคุยแบบใกล้ชิดหรืออัปเดตเกี่ยวกับผู้บริจาคอย่างสม่ำเสมอ
  • เว็บไซต์:   https://www.rattlestork.org/
  • Apple:   https://apps.apple.com/app/rattlestork/id6503442456
  • Android:   https://play.google.com/store/apps/details?id=org.rattlestork.twa

ข้อมูลสั้นๆ:
RattleStork เป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นในด้านการบริจาคอสุจิส่วนตัว ผู้ใช้สามารถค้นหาผู้บริจาค ผ่านโปรไฟล์เชิงลึก และได้รับประโยชน์จากการสื่อสารโดยตรงก่อนจะตัดสินใจร่วมกัน หากคุณต้องการเก็บข้อมูลให้เป็นความลับ แอปนี้รองรับ แต่ก็มีทางเลือกสำหรับการติดต่อ ที่เปิดเผยมากขึ้นหากทั้งสองฝ่ายยินดี

2. Just a Baby

  • แพลตฟอร์ม: iOS, Android
  • คุณลักษณะหลัก: บริจาคอสุจิ, บริจาคไข่, การเป็นพ่อแม่ร่วมกัน (co-parenting), แม่อุ้มบุญ
  • ค่าใช้จ่าย: ฟีเจอร์พื้นฐานฟรี, อาจมีตัวเลือกพรีเมียมที่เสียค่าใช้จ่าย
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่กำลังสำรวจหลายแนวทางในการมีบุตร
  • เว็บไซต์:   https://www.justababy.com

ข้อมูลสั้นๆ:
Just a Baby เป็นแพลตฟอร์มระดับสากลที่ใช้ระบบการ “ปัด” โปรไฟล์ คล้ายแอปพลิเคชันเดต นอกจากบริจาคอสุจิแล้ว ยังครอบคลุมถึงการบริจาคไข่ การเป็นพ่อแม่ร่วมกัน และการใช้แม่อุ้มบุญ อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย กฎหมายเกี่ยวกับแม่อุ้มบุญมีข้อจำกัดและเงื่อนไขมากมาย จึงจำเป็นต้องศึกษากฎระเบียบให้ละเอียดก่อนใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว

3. Modamily

  • แพลตฟอร์ม: iOS, Web
  • คุณลักษณะหลัก: เน้นการเป็นพ่อแม่ร่วมกัน, โปรไฟล์ผู้ใช้อย่างละเอียด
  • ค่าใช้จ่าย: ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์หรือช่องทางทางการ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการจัดการความเป็นพ่อแม่ร่วม (co-parenting) ระยะยาว
  • เว็บไซต์:   https://www.modamily.com

ข้อมูลสั้นๆ:
Modamily เชื่อมต่อผู้คนที่เลือกโครงสร้างครอบครัวแบบทางเลือก โดยเน้นความเป็นพ่อแม่ร่วมกัน แม้ว่าจะเป็นที่นิยมในต่างประเทศ แต่ก็สามารถเข้าถึงในประเทศไทยได้ ผู้ใช้สามารถดูว่า ค่านิยมและทัศนคติในการเลี้ยงลูกสอดคล้องกันหรือไม่ ผ่านโปรไฟล์ที่ละเอียด นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังให้คำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและจิตวิทยาที่อาจมีประโยชน์ สำหรับผู้ที่จัดการเรื่องสิทธิความเป็นบิดามารดา

4. CoParents

  • แพลตฟอร์ม: iOS, Android, Web
  • คุณลักษณะหลัก: เครือข่ายระดับโลก, ฟิลเตอร์การค้นหาที่หลากหลาย
  • ค่าใช้จ่าย: ฟีเจอร์พื้นฐานฟรี, อาจมีแพ็กเกจแบบชำระเงิน
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่พิจารณาหาคู่บริจาคหรือตัวเลือก co-parenting ในต่างประเทศ
  • เว็บไซต์:   https://www.coparents.com

ข้อมูลสั้นๆ:
CoParents เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ผู้ใช้จากหลายประเทศสามารถทำความรู้จักและหาผู้บริจาค อสุจิ หรือร่วมเป็นพ่อแม่จากต่างแดน คนไทยที่ไม่พบผู้บริจาคในประเทศอาจใช้แพลตฟอร์ม นี้เพื่อขยายการค้นหา อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับชาวต่างชาติอาจนำไปสู่คำถามในเรื่อง สิทธิทางกฎหมายของเด็ก หรือกระบวนการทางเอกสารเพิ่มเติม

5. Pride Angel

  • แพลตฟอร์ม: Web
  • คุณลักษณะหลัก: เน้นครอบครัว LGBTQ+, มีข้อมูลและบริการปรึกษา
  • ค่าใช้จ่าย: แตกต่างตามแพ็กเกจสมัครสมาชิก และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการชุมชนที่ปลอดภัยและข้อมูลด้านกฎหมาย/การแพทย์อย่างละเอียด
  • เว็บไซต์:   https://www.prideangel.com

ข้อมูลสั้นๆ:
Pride Angel มุ่งเน้นการช่วยเหลือครอบครัว LGBTQ+, ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคอสุจิ, ไข่ หรือตกลงเรื่อง การเลี้ยงดูร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาสารสนเทศครอบคลุมเกี่ยวกับแง่มุมทางการแพทย์ กฎหมายและอารมณ์ สำหรับผู้ใช้ไทย แอปนี้อาจไม่ได้มีระบบการจับคู่โดยตรงในประเทศมากนัก แต่สามารถใช้เพื่อรับความรู้และคำแนะนำในระดับสากล

6. ครอบครัวไทย (ชุมชนออนไลน์ในไทย)

  • แพลตฟอร์ม: Web (ฟอรั่ม, บทความความรู้)
  • คุณลักษณะหลัก: แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์, การบริจาคอสุจิ, การตั้งครรภ์, มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ
  • ค่าใช้จ่าย: มักไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับบริการพื้นฐาน; อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับบริการพิเศษ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่อยู่ในไทยและต้องการแชร์ข้อมูลหรือรับคำแนะนำในบริบท กฎหมายไทยและการแพทย์ในไทย
  • เว็บไซต์:(ตัวอย่างจำลอง, อาจไม่มีอยู่จริง)

ข้อมูลสั้นๆ:
“ครอบครัวไทย” เป็นตัวอย่างของชุมชนออนไลน์ที่คนไทยมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแล ภาวะมีบุตรยาก การบริจาคอสุจิ และหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มโดยตรง สำหรับจับคู่ผู้บริจาคและผู้รับ แต่สามารถนำไปใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับค้นหาเรื่องราวของคนที่ มีประสบการณ์ในประเทศ รวมถึงอาจได้ข้อมูลติดต่อคลินิกหรือผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย

7. CoparentaLys

  • แพลตฟอร์ม: Web
  • คุณลักษณะหลัก: ชุมชนระดับโลก, เน้นระบบ co-parenting และการบริจาคอย่างไม่เป็นทางการ
  • ค่าใช้จ่าย: ตรวจสอบรายละเอียดในเว็บไซต์
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่สนใจความร่วมมือข้ามชาติในการบริจาคหรือต้องการ ผู้ร่วมเลี้ยงดูจากต่างประเทศ
  • เว็บไซต์:   https://www.coparentalys.com

ข้อมูลสั้นๆ:
CoparentaLys เชื่อมต่อผู้บริจาคกับครอบครัวว่าที่พ่อแม่ทั่วโลก ไม่ว่าจะสนใจรูปแบบการ เป็นพ่อแม่ร่วมกันอย่างทางการหรือเฉพาะบริจาคอสุจิแบบไม่เป็นทางการ หากผู้ใช้ในไทย ต้องการหาผู้บริจาคในต่างประเทศ นี่เป็นอีกทางเลือก แต่อย่าลืมว่าการร่วมมือข้ามชาตินั้น เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิเด็กตามกฎหมาย สัญชาติ และเอกสารต่างๆ อีกมาก

ประเด็นกฎหมายในประเทศไทย: ควรพิจารณาอะไรบ้าง?

ในประเทศไทยการบริจาคอสุจิ (และไข่) ภายใต้การแพทย์ช่วยการเจริญพันธุ์มีกำกับภายใต้กฎหมาย และระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงคำสั่งแพทยสภา ระเบียบต่างๆ ระบุถึงกระบวนการตรวจสุขภาพ ของผู้บริจาค ความเป็นนิรนาม (anonymity) และสิทธิ-หน้าที่ต่างๆ แม้ว่าในทางปฏิบัติ ผู้บริจาคอาจไม่สามารถเรียกร้องสิทธิความเป็นบิดาได้ แต่เมื่อมีการดำเนินการนอกคลินิก หรือโดยใช้แอปพลิเคชัน กลับเกิดภาวะเสี่ยงทางกฎหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพาท เรื่องสิทธิเลี้ยงดู หรือการเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูถ้ามีข้อโต้แย้งในอนาคต

นอกจากนี้ ที่ประเทศไทย การตั้งครรภ์แทน (แม่อุ้มบุญ) นั้น อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีข้อจำกัด ระบุเฉพาะกรณี เช่น คู่สามีภรรยาที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เอง และต้องได้รับอนุญาตตามเกณฑ์ ดังนั้น สำหรับผู้ที่คิดจะใช้บริการบริจาคอสุจิผ่านแอปหรือทำข้อตกลงส่วนตัว ควรพิจารณา ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และควรปรึกษาทนายผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัว เพื่อป้องกัน ปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมา

ข้อดีและข้อเสียของแอปพลิเคชันบริจาคอสุจิ

ข้อดี:

  • ทางเลือกหลากหลาย: ผู้ใช้งานสามารถพบผู้บริจาคจำนวนมากที่มีโปรไฟล์ แตกต่างหลากหลาย
  • ความยืดหยุ่น: ผู้ใช้สามารถตกลงรูปแบบการบริจาคให้เป็นแบบไม่เปิดเผยชื่อ หรือมีการพบปะ และยังสามารถพิจารณา co-parenting
  • การเข้าถึงง่าย: เมื่อเทียบกับการเข้าสู่กระบวนการในธนาคารอสุจิแบบเก่า แอปทำให้การหาและติดต่อตรงกับผู้บริจาคง่ายขึ้น
  • เหมาะสำหรับหลายรูปแบบครอบครัว: ทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รัก LGBTQ+ หรือ บุคคลโสด
  • ค่าใช้จ่ายอาจต่ำกว่า: แอปบางแอปฟรี และแม้จะมีการเสียค่าที่ปรึกษากฎหมาย หรือค่าตรวจร่างกาย ก็อาจไม่แพงเท่ากับขั้นตอนผ่านคลินิกเต็มรูป
  • ชุมชนและการแลกเปลี่ยนความรู้: หลายแอปมีฟอรัมหรือพื้นที่สื่อสาร สำหรับ ผู้ใช้งานแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ข้อเสียและความเสี่ยง:

  • กฎหมายไม่ครอบคลุม: ส่วนใหญ่เน้นไปที่การบริจาคผ่านคลินิกที่ได้รับอนุญาต ทำให้การทำข้อตกลงส่วนตัวไม่มีกรอบชัดเจน
  • อาจขาดการตรวจสุขภาพมาตรฐาน: ไม่ใช่ทุกแอปกำหนดเงื่อนไขว่าผู้บริจาคต้องผ่าน การตรวจโรคอย่างละเอียด
  • ความปลอดภัยของข้อมูล: หากแอปไม่ใช้มาตรการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด อาจเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
  • ข้อพิพาทด้านสิทธิ: ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องยอมรับบุตรหรือค่าเลี้ยงดู กฎหมายไม่ได้ระบุชัดเจนสำหรับข้อตกลงส่วนตัว
  • ภาระทางอารมณ์: เมื่อมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างผู้บริจาคกับผู้รับ อาจเกิดปัญหาอารมณ์หรือความขัดแย้งตามมา
  • ประเด็นระหว่างประเทศ: หากบริจาคข้ามชาติ อาจต้องดำเนินขั้นตอนเพิ่มเติมเรื่อง สถานะกฎหมายเด็กและสัญชาติ
  • ขาดการควบคุมจากภาครัฐ: แตกต่างจากธนาคารอสุจิที่มีขีดจำกัดจำนวนการบริจาค จากผู้บริจาคแต่ละราย ในแอปอาจไม่มีข้อจำกัดใดๆ
  • ค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง: ค่าบริการเสริม, ที่ปรึกษากฎหมาย, ตรวจโรค อาจทำให้การใช้งานแพลตฟอร์ม “ฟรี” กลายเป็นมีค่าใช้จ่ายสูง

บทสรุป

แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคอสุจิสามารถตอบโจทย์ความต้องการในโลก สมัยใหม่อย่างยืดหยุ่นและสะดวกสบายกว่าการใช้ธนาคารอสุจิรูปแบบเก่า ตั้งแต่ RattleStork ไปจนถึง CoParents หรือ Modamily — แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการ บริจาคแบบไม่เปิดเผยชื่อ หรือการร่วมเลี้ยงดูแบบระยะยาว อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีการกำหนดกรอบกฎหมายเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการบริจาคอสุจินอกสถานพยาบาลโดยตรง จึงจำเป็นต้องพิจารณาทั้งมิติทางกฎหมาย (เช่น การทำสัญญา) และมิติทางการแพทย์ (เช่น การตรวจสุขภาพ) อย่างรอบคอบ การขอคำปรึกษาจากทนายความและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การเดินทางสู่การเป็นครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)